ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ แม้เราจะทาครีมกันแดดปกป้องผิวแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอค่ะ ด้วยแสงแดดในปัจจุบันมีหลายหลายประเภท อีกทั้งไลฟ์สไตล์เราในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะท่องเที่ยว ออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งการนั่งทำงานในออฟฟิส ก็ยังเลี่ยงไม่พ้นจากรังสี UV ซึ่งเป็นตัวการร้ายที่ทำให้เกิด ฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือหน้าแก่ก่อนวัยอันควร การเผชิญหน้ากับแสงแดดในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงแค่ 15 นาทีโดยขาดการป้องกันที่เหมาะสมก็สามารถส่งผลเสียต่อผิวทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมาได้เช่นกัน
การปกป้องร่างกายจากรังสียูวี หรือ รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet) นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงปัญหาผิวแก่ก่อนวัย ริ้วรอย ฝ้ากระ จุดด่างดำแล้ว ยังลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อยู่ที่ราว ๆ 30 สามารถป้องกันรังสียูวีได้ถึง 97 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องทาซ้ำต่อเนื่องทุก ๆ 2 ชั่วโมง และควรใช้บ่อยขึ้นเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมทางน้ำ เช่นการว่ายน้ำ เป็นต้น ซึ่งโดยปกติแล้วรังสียูวีจะมีความเข้มข้นสูงสุดในช่วงเวลา 10 โมงเช้าจนถึง 4 โมงเย็นของทุก ๆ วัน ดังนั้นเราก็ควรดูแลตัวเองเป็นพิเศษเมื่อต้องออกแดดหรือมีกิจกรรมในช่วงเวลา ดังกล่าว
มาทำความรู้จักรังสี UV ตัวการร้ายทำลายผิวกันค่ะ
รังสียูวีแบ่งออกเป็น 3 ชนิดด้วยกันได้แก้ รังสี UVA รังสี UVB และ รังสีUVC ซึ่งไม่ว่าจะรังสีใด ก็สามารถทำร้ายผิวได้ทั้งนั้น แต่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อผิวที่ต่างกันออกไป เรามาทำความรู้จักรังสีแต่ละชนิดกันค่ะ
1. รังสี UVA ซึ่งนับเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของรังสียูวีทั้งหมดที่แผ่มายังโลกของเราและทำร้ายผิวของเรา โดยรังสียูวีชนิดนี้ก่อให้เกิด ริ้วรอย ฝ้ากระ จุดด่างดำ และสัญญาณผิวแก่ก่อนวัยต่าง ๆ ที่เป็นปัญหากังวลใจของสาว ๆ หลาย ๆ คน และนอกจากนี้รังสี UVA ยังก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
2. รังสี UVB ซึ่งมีปริมาณเพียง 5 % ของรังสียูวีทั้งหมดที่เข้ามายังโลก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรังสียูวีบีก็สามารถส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อผิวของเราได้เช่นกัน เนื่องจากรังสีชนิดนี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวของเราเกิดอาการไหม้แดด (Sunburn) และยังส่งผลต่อความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังอย่างมากด้วยเช่นกัน
ถึงแม้ว่ารังสี UVA และ UVB จะเป็นอันตรายต่อผิวและสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่ทำลายผิวมากเท่ากับรังสี UVC ซึ่งเป็นรังสียูวีที่อันตรายมากที่สุด แต่โชคดีที่รังสี UVC นั้นไม่สามารถทะลุผ่านชั้นโอโซนของโลกเราเข้ามาได้ ดังนั้นจึงสบายใจได้ว่าเราจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ จากรังสียูวีชนิดนี้อย่างแน่นอน
จริงอยู่ที่เราหลีกเลี่ยงแสงแดดไม่ได้ แต่เราควรเตรียมตัววิธีป้องกันตัวเองให้ดีก่อนที่จะออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งเราก็สามารถมีไลฟ์สไตล์ต่างๆได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งการทาครีมกันแดดเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อผิวอย่างมาก ซึ่งไม่ว่าหนุ่มๆ หรือ สาวๆ ก็ไม่ควรละเลย เพราะถ้าเกิดปัญหาผิวแก้ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอยต่างๆ การที่จะมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุย่อมยากกว่าการป้องกันที่สาเหตุค่ะ
แต่หากคุณกำลังประสบปัญหาริ้วรอย ฝ้า-กระ จุดด่างดำต่าง ๆ หรือสัญญาณผิวแก่กว่าวัยที่เกิดจากการตากแดดสะสมมาเป็นระยะเวลานานและต้องการขจัดปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป สามารถปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง แพทย์หญิงสุนิดา ยุทธโยธิน ผู้มีประสบการณ์กว่า 21 ปี ได้ที่ Nida Esth’ Medical Center ศูนย์การแพทย์ความงามชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำสมัยผนวกกับความชำนาญของทีมแพทย์และบุคลากรเพื่อดูแลปัญหาผิวให้แลดูอ่อนวัย ผิวเด็ก ดูอ่อนเยาว์ตราบนานเท่านาน
เพราะที่ Nida Esth’ พร้อมด้วยเทคโนโลยีปรับเปลี่ยนผิวจากระดับเซลล์ Growth Factor Younger Dual Technology ภายใต้คอนเซ็ปต์ เซลล์ซ่อมเซลล์ (Cells Heal Cells) ที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาริ้วรอย ฝ้า-กระ จุดด่างดำต่าง ๆ หรือสัญญาณผิวแก่กว่าวัยได้ พร้อมเปลี่ยนผิวให้เด็ก ใสและเนียน เหมือนเปลี่ยนผิวใหม่ โดยไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องฉีดสเต็มเซลล์ ปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ได้ทันที
ติดต่อสอบถามปัญหาผิวหน้า ฝ้า กระ จุดด่างดำ และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม Growth Factor Younger กับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ เบอร์ 02-252-2121 หรือ ไลน์ @nida_esth
References form the official of FDA of USA: https://www.fda.gov/radiation-emitting-products/tanning/ultraviolet-uv-radiation