Microdermabrasion

สดใส-อ่อนเยาว์ อย่างรู้สึกได้ มิติใหม่แห่งการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และมีประสิทธิภาพ

Microdermabrasion with Skin Peeler Professional (SPP)

ลบเลือนริ้วรอยจากกาลเวลา และมลภาวะ

มิติใหม่ของการผลัดเซลล์ผิวอย่าล่อยให้กาลเวลาทำร้ายผิว  Microdermabrasion ช่วยคุณได้

     ปัญหาผิวจากวัยที่เพิ่มมากขึ้น – ความเครียด และมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม ทั้ง แสงแดด ความร้อน และฝุ่นควัน  ทำให้ผิวของคุณไม่นุ่มนวล-สดใสอย่างที่ควรจะเป็น จุดด่างดำเพิ่มมากขึ้น ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวแตกลาย รอยแผลเป็นจากสิว-อีสุกอีใส

ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ด้วย Microdermabrasion นวัตกรรมใหม่ของการผลัดเซลล์ผิวที่ทำงานอย่างอ่อนโยน เมื่อเปรียบเทียบกับการผลัดเซลล์ผิวแบบเดิมที่ใช้สารเคมี (Chemical peeling) หรือเลเซอร์ซึ่งไม่เหมาะที่จะรักษากับผู้ที่มีผิวสีน้ำตาล หรือผิวคล้ำ เพราะต้องเสียเวลากับการรักษาแผล รวมถึงรอยแดงและรอยดำที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอในผิวของคนไทย

การรักษาด้วย Microdermabrasion นั้นไม่ใช่การทำการผ่าตัด ไม่ต้องใช้สารเคมีจึงไม่ก่อให้เกิดบาดแผล รอยแดงหรือรอยดำ ได้ผลเร็ว ปลอดภัย ไม่เจ็บ รวมทั้งราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่น และผิวของคุณจะกระจ่างใสดีขึ้นได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว

จากระบบการควบคุมที่สมบูรณ์แบบของการผลัดเซลล์ผิว จะใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น ผิวบริเวณที่รักษาจะอ่อนนุ่มขึ้น จุดด่างดำ และรอยย่นเล็ก ๆ จางลง ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างสัมผัสได้  ทำให้การผลัดเซลล์ผิวด้วย Microdermabrasion เป็นที่นิยมสำหรับชาวยุโรป เพราะสามารถที่มักจะมารับการรักษาตอนพักเที่ยง (Lunch Time Peel) ได้และยังมีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นอีกด้วย

Microdermabrasion เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่มีปัญหาผิวสะสมจากมลภาวะต่าง ๆ
• ผู้ที่มีปัญหารอยแผลที่ไม่ลึกมาก
• ผู้ที่มีปัญหาผิวแตกลาย
• ผู้ที่มีปัญหาจุดด่างดำ หรือสีผิวผิดปกติ
• ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำจากการขาดออกซิเจน

Microdermabrasion With Skin Peeler Professional (SPP)

ช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างอ่อนโยน และมีประสิทธิภาพ

SPP ที่ให้คุณได้มากกว่าแค่การผลัดเซลล์ผิว

      นอกจากจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังมีขั้นตอนในการกระตุ้น ให้ผิวสร้างเซลล์ใหม่ ๆ และปกป้องเซลล์ผิวด้วย Anti-Oxidant ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่างแพร่หลายทั่วโลก พิสูจน์ได้จากผลการรักษาในยุโรปซึ่งเป็นที่นิยมมานานกว่า 10 ปี และได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา แม้แต่ศัลยกรรมตกแต่งในต่างประเทศ ยังนิยมใช้วิธีการนี้ควบคู่ไปกับการผ่าตัดดึงหน้า (Face Lift) หรือการฉีดคอลลาเจน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในการแก้ปัญหาริ้วรอยย่นที่ลึกกว่าปกติ

มีความเสี่ยง หรืออันตรายการจากการรักษาหรือไม่

     Professor Emil Bisaccia แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า Microdermabrasion เป็นวิธีการผลัดเซลล์ผิวที่มีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดแผลหรือรอยดำ เนื่องจากไม่ได้มีผลลึกลงไปในผิวมากเท่ากับการรักษาด้วยเลเซอร์ หรือการกรอผิวแบบเดิม

จะต้องทำการรักษากี่ครั้ง

      หลังการรักษา 2 – 3 ครั้งแรก ผิวของคุณจะอ่อนนุ่ม และกระชับมากขึ้น จุดด่างดำของกระแดด และรอยย่นเล็กๆ ลดลง ปัญหาที่ค่อนข้างลึกเช่น ผิวแตกลาย รอยแผลเป็นจากสิวหรืออีสุกอีใส อาจต้องรักษาประมาณ 10 – 12 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว โดยผิวหน้าควรทำการรักษาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ผิวกายสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

รักษาปัญหาผิวพรรณประเภทใดได้บ้าง

      ด้วย Microdermabrasion ซึ่งสามารถควบคุมระดับความลึกในการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างแม่นยำ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง จึงสามารถวางแผนการรักษาให้แก่ผู้เข้ารับการรักษาแต่ละรายที่มีสภาพผิวแตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม

• ริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็กๆ
• จุดด่างดำ จากวัย และจากแสงแดด
• ผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด
• รอยแผลเป็นต่างๆ รวมทั้งรอยแผลเป็นจากสิว
• ผิวแตกลาย
• ผิวหมองคล้ำเนื่องจากการขาดออกซิเจน

ศิลปะแห่งเทคโนโลยีของการผลัดเซลล์ผิว

Optimal active agent absorption

    Microdermabrasion ด้วย Skin Peeler Professional ของ Reviderm ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ผิวของคุณได้ถูกเตรียมพร้อมสำหรับการดูดซึมสารต่าง ๆ เข้าสู่เซลล์ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพหลังทำการรักษา

Optimize Skin Regeneration

      ชั้นของผิวหนังที่ถูกทำลายจากมลภาวะ และเสื่อมสภาพจากวัย จะถูกผลัดออกไปอย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ผิวหนังชั้นล่างให้มีการแบ่งตัว และสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงกว่าขึ้นทดแทน ผิวพรรณจึงดูกระจ่าง เนียนใส เปล่งปลั่งขึ้น

Effective Treatment of Damaged Skin

      แม้แต่ผิวที่ถูกทำลายไปแล้วอย่างรุนแรง ยังสามารถฟื้นฟูได้ด้วย Microdermabrasion ซึ่งเหมาะสำหรับใช้รักษาสภาพผิว ดังต่อไปนี้

• สิว
• รอยแผลเป็นต่าง ๆ รวมทั้งแผลจากสิว
• ผิวแตกลาย
• จุดด่างดำ หรือสีผิวผิดปกติ
• ผิวที่หม่นหมองจากการขาดออกซิเจน