ตอบโจทย์ทุกปัญหารูปร่าง พร้อม 10 เรื่องต้องรู้ ก่อนเข้ารับบริการ
จริงอยู่ที่การกำจัดไขมันด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์อาจฟังดูแล้วเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่คนเราจะสามารถปั้นหุ่นสวย สัดส่วนกระชับฉบับเรือนร่างในฝันได้โดยไม่ต้องดูดไขมัน ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีรอยแผล ไม่เจ็บ ไม่มีรอยเย็บ และไม่ต้องออกกำลังกาย แต่ด้วยเทคโนโลยีในสมัยปัจจุบันแล้ว ต้องขอบอกเลยว่าเป็นไปได้อย่างแน่นอน และไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลยที่เราจะสามารถมีหุ่นสวยดั่งฝันได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว
ดังนั้นวันนี้ Nida Esth’ Medical Centre (ศูนย์การแพทย์นิดา เอสธ์เมดิคอล เซ็นเตอร์) จึงได้รวบรวมสาระน่ารู้เกี่ยวกับการสลายไขมันไขมันด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ รวมถึงวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้ทุกท่านได้มีข้อมูลและเตรียมตัวเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับการรักษา ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
สารบัญ
- 1.ลักษณะปัญหารูปร่าง ไขมันส่วนเกิน ที่คุณเผชิญอยู่
- 2.อัพเดตสุดยอดเทคโนโลยีเลเซอร์สลายไขมันที่นิยมมากที่สุดในปี 2021 พร้อมจุดเด่นของแต่ละเทคโนโลยี
- 3.ปัญหารูปร่างใด เหมาะกับเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยเลอเซอร์ชนิดไหน?
- 4.ขั้นตอนการรักษาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์สลายไขมัน
- 5.การเตรียมตัวก่อนการเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์สลายไขมัน
- 6.การดูแลตนเองหลังการเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยพลังงานเลเซอร์
- 7.ความแตกต่างระหว่างการดูดไขมัน VS เลเซอร์สลายไขมัน?
- 8.เลเซอร์สลายไขมัน ให้ผลลัพธ์ถาวรหรือไม่?
- 9.ตรวจสอบมาตรการด้านความปลอดภัยของศูนย์ดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน
- 10.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพทย์ผู้ให้คำปรึกษา
1.ลักษณะปัญหารูปร่าง ไขมันส่วนเกิน ที่คุณเผชิญอยู่
ที่จริงแล้วปัญหารูปร่างของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายนั้นมีมากมายหลากหลายปัญหาแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ดังนั้น Nida Esth’ Medical Centre เลยแบ่งปัญหารูปร่างออกเป็น 6 ปัญหาเพื่อให้ทุกท่านมองภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อสามารถสำรวจรูปร่างของตัวเราเองว่า ตรงกับปัญหาในรูปแบบใดและแต่ละปัญหาควรใช่เทคโนโลยีใดในการรักษา
ปัญหารูปร่าง | สาเหตุ |
---|---|
ส่วนมากเกิดจากกรรมพันธุ์ที่ทำให้สัดส่วนบริเวณต่าง ๆ เกิดไขมันสะสม ในขณะที่ส่วนอื่นไม่มี เช่น ต้นแขน-ต้นขา เหนียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าท้องที่ลดลงได้ค่อนข้างยาก เพราะต่อให้ออกกำลังกายหนักแค่ไหน ควบคุมอาหารดีอย่างไร ก็เป็นการยากที่จะทำให้ไขมันเหล่านั้นหายไป | |
เป็นภาวะทางสุขภาพที่เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต และการบริโภคอาหารที่มีปริมารไขมันสูง หรือขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์อัมพาต และโรคมะเร็งบางชนิดด้วย | |
เกิดขึ้นได้จากการที่ร่างกายรับสารอาหารประเภทไขมันเข้าสู่ร่างกายจำนวนมาก และร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน ไขมันในส่วนนี้ก็จะเข้าไปแทรกซึมเกาะติดอยู่ภายในระหว่างอวัยวะต่าง ๆ และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ยิ่งผ่านไปนาน ๆ ไขมันชนิดนี้ก็จะมีความแข็งตัวมากยิ่งขึ้น และจะดันให้หน้าท้องป่องออกมา โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนผอมหรือคนอ้วน | |
เป็นสภาพผิวที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่เรียนเนียน เต่งตึง แต่กลับมีความหย่อนยาน ทำให้รูปเปลี่ยนแปลงไป โดยสาเหตุที่ผิวหย่อนคล้อยอาจเกิดจากการลดน้ำหนักอย่างกะทันหัน ทำให้ผิวหนังปรับสภาพความยืดหยุ่นไม่ทันกับร่างกายที่เล็กลง หรือสามารถเกิดจากการคลอดบุตรได้เช่นกัน | |
เกิดจากไขมันที่เป็นของเหลว และสารพิษที่ติดค้างอยู่ในร่างกาย สะสมอยู่ใต้ชั้นผิวหนังมากเกินปกติ จนเปลี่ยนไปเป็น “เซลลูไลท์” ที่มีลักษณะขรุขระ เป็นคลื่นๆ ไม่เรียบเนียน หรือมีรอยบุ๋ม คล้ายกับผิวของเปลือกส้ม | |
เกิดจากการที่เราไม่ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้กล้ามเนื้อไม่มีความแข็งแรง ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว สาว ๆ หลายคนกลัวการจะมีกล้ามเนื้อเพราะจะทำให้ดูเหมือนผู้ชาย แต่รู้ไหมว่ากล้ามเนื้อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยการเผาผลาญไขมันที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ |
2.อัพเดตสุดยอดเทคโนโลยีเลเซอร์สลายไขมันที่นิยมมากที่สุดในปี 2021 พร้อมจุดเด่นของแต่ละเทคโนโลยี
หลังจากพอทราบกันไปเบื้องต้นแล้วว่าเรามีปัญหารูปร่างแบบใด เราก็มาถึงหัวข้อสำคัญว่าปัจจุบันมีเทคโนโลยีเลเซอร์ใดบ้างที่ช่วยเรื่องการสลายไขมัน โดย Nida Esth’ Medical Centre ได้จัดอันดับความนิยมของเลเซอร์สลายไขมันมาไว้ดังต่อไปนี้
1. 3D Body Design by Triple T
โดยเทคโนโลยีอันดับแรกที่เราจะพูดถึงเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากการเก็บสติถิของผู้เข้ารับการรักษามากกว่า 1.5 ล้านรายจากทั่วโลก ได้แก่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า 3D Body Design by Triple T เทคโนโลยีลิขสิทธิ์ที่ถูกออกแบบมาเป็น พิเศษเพื่อตอบโจทย์ปัญหาเรือนร่างได้ทุกมิติในครั้งเดียวของการรักษา All-in-one Solution สำหรับทุกปัญหาเรือนร่าง
โดยเกิดจากการคิดค้นของผู้นำนวัตกรรมยักษ์ใหญ่ชั้นนำ EVOLVE ที่พัฒนาด้านเทคโนโลยีเลเซอร์ พร้อมมาตรฐานด้านความปลอดภัยให้กับ 3D Body Design by Triple T ให้เป็นเทคโนโลยีแบบ Hand-Free จึงสามารถช่วยลดการสัมผัส เพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ด้วยเทคโนโลยีการรักษา All-in-one Solution ทำให้คนไข้ไม่ต้องเสียเวลาเพราะสามารถแก้ไขปัญหาเรือนร่างได้ครบ จบ ภายในครั้งเดียว ทั้งปัญหา ไขมัน ผิวหย่อนคล้อย และกล้ามเนื้อไม่กระชับ
3D Body Design by Triple T เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับคนที่ต้องการกำจัดไขมันโดยไม่ต้องการผ่าตัด
- เหมาะกับคนที่ต้องการกระชับผิวกายโดยไม่ต้องการผ่าตัด
- เหมาะกับคนที่ต้องการการชับและสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อโดยไม่ต้องการผ่าตัด
จุดเด่นของ 3D Body Design by Triple T
- All-in-One Solution สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างบอดี้สวย กระชับ ได้รูปทุกสัดส่วน องศา มิติ
- แก้ไขปัญหาเรือนร่างได้ครบทั้ง 3 มิติ ได้แก่ กำจัดไขมัน กระชับผิว กระตุ้นการสร้างมวลกล้ามเนื้อ
- เทคโนโลยีระบบ Hand-free ซึ่งช่วยลดการสัมผัสระหว่างพยาบาลกับคนไข้ จึงไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็น
- ปลอดภัย ไม่เจ็บ ประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
2.Robotic Fat Killer by SculpSure
สุดยอดเทคโนโลยีสลายไขมันที่ดีที่สุดและเห็นผลลัพธ์ที่สุดในปัจจุบัน Robotic Fat Killer by SculpSure โดย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องดูด ไม่ต้องเจาะ ไม่เจ็บ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสุดล้ำจากยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยี Cynosure ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำด้านเลเซอร์ความงามในสหรัฐอเมริกา โดยให้การออกแบบของระบบนี้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นพิเศษ โดยสามารถช่วยลดการสัมผัส เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยการใช้คอมเซปต์หุ่นยนต์เลเซอร์สลายไขมันควบคุมมาตรฐานการสลายไขมันจากระบบปฏิบัติการในสหรัฐอเมริกา เพราะฉะนั้นคนไข้จะได้รับมาตรฐานการรักษาเดียวกันเสมือนกับว่าได้ไปรักษาที่สหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
Robotic Fat Killer by SculpSure เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สามารถเข้าถึงและทำลายเซลล์ไขมันส่วนเกิน โดยใช้พลังงานเลเซอร์ในช่วงคลื่น 1060 nm ที่ทำให้เกิดความร้อน ในระดับอุณหภูมิ 42-47ºC ภายในเซลล์ไขมัน จนเกิดภาวะช็อคของเซลล์และสลายไป ร่างกายก็จะกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วเหล่านี้ออกไปทางระบบน้ำเหลือง ซึ่งเห็นผลดีกับทุกบริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน และในการรักษาในแต่ละครั้งสามารถลดจำนวนไขมันในบริเวณที่ทำการรักษาได้ประมาณ 24-32 % จึงสามารถลดระยะเวลาการรักษาไปได้มากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น นอกจากนี้หลังทำยังไม่ต้องพักฟื้น มั่นใจได้ว่าปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
Robotic Fat Killer by SculpSure เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันเฉพาะจุดแบบถาวร
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน ต้องการลดสัดส่วน ให้รูปร่างดูเฟิร์มกระชับ
- ต้องการกำจัดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด
จุดเด่นของ Robotic Fat Killer by SculpSure
- Slimmer ผอมกว่า ฆ่าเซลล์ไขมันได้มากกว่า – บริเวณกว้างกว่า (ในระยะเวลาที่เท่ากัน)
- Firmer เพรียวกระชับกว่า เพราะสามารถฆ่าเซลล์ไขมันพร้อมกระชับผิวไปพร้อมกัน
- Faster Result ผอมเร็วกว่า เห็นความแตกต่างตั้งแต่ครั้งแรก
- Safer ปลอดภัยกว่า ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 และปัญหาผิวตายจากความเย็นแช่แข็ง
- Cheaper ประหยัดกว่า ฆ่าเซลล์ไขมันได้หลายบริเวณในเวลาเดียวกัน
3.Slim Laser Diet by Zerona
เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการสลายไขมันแบบผอม เพรียวกระชับได้ทั่วทั้งตัว นั่นคือ Slim Laser Diet by Zerona เลเซอร์สลายไขมันเพียงหนึ่งเดียวของโลกที่สามารถปรับลดน้ำหนักตัวและไขมันส่วนเกินภายใน 2-3 สัปดาห์พร้อมทั้งยังได้สุขภาพร่างกายภายในที่ดีขึ้นอีกด้วยเมื่อเข้าโปรแกรมคู่กับ Slim Supplement จากบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีพลังงานเลเซอร์ด้านความงาม ERCHONIA ในสหรัฐอเมริกา โดยจุดเด่นของเทคโนโลยีนี้คือ ระบบปฏิบัติการแบบ Hand-Free ที่ช่วยลดการสัมผัสในระหว่างการทำหัตถการ จึงช่วยลดการติดเชื้อ ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากยิ่งในช่วงสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 นี้
นอกจากนี้ยังเป็นเทคโนโลยี Total Body Slimming and Firming Weight Control ที่มีประสิทธิภาพใน
1.การสลายไขมันแบบทั่วร่างกาย จึงทำให้น้ำหนักตัวลดลงพร้อมรูปร่างกระชับขึ้น
2.ผิวพรรณเรืองร่างที่แลดูอ่อนเยาว์ลงทั่วร่างกาย
3.ผิวตึงกระชับไม่หย่อนคล้อย
4.ผลดีต่อสุขภาพภายในเพราะสามารถช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนควบคุมความอยากอาหาร
Slim Laser Diet by Zerona เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่โด่งดังและได้รับความนิยมอย่างสูงในสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยใช้พลังงาน Cold Laser จะโฟกัสโดยตรงไปยังเซลล์ไขมัน โดยก่อให้เกิด Biochemical Reaction และรูเปิดขนาดเล็กชั่วคราว (transitory pores) บนเยื่อหุ้มเซลล์ ไขมันภายในเซลล์ไขมันส่วนเกินจึงไหลออกมานอกเซลล์ ทำให้เซลล์ไขมันซึ่งมีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยอนุภาคของไขมัน บรรจุอยู่ภายในจนแน่นเซลล์กลายเป็นเซลล์ที่มีขนาดเล็กและฝ่อตัวลง ภายใน 18 นาที! หลังการรักษา
Slim Laser Diet by Zerona เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับคนที่ต้องการสลายไขมันแบบทั่วร่างกายและต้องการลดน้ำหนักตัวโดยรวม
- เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวกายดูอ่อนเยาว์ลง
- เหมาะกับคนที่ต้องการมีผิวตึงกระชับไม่หย่อนคล้อย
- เหมาะกับคนรักสุขภาพ
จุดเด่นของ Slim Laser Diet by Zerona
- เลเซอร์สลายไขมันเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถปรับลดน้ำหนักตัวและไขมันส่วนเกินภายใน 2-3 สัปดาห์
- 90% ของไขมันจะถูกหลอมเหลวภายใน 12 นาที!
- 99% ของไขมันจะถูกปลดปล่อยออกมานอกเซลล์ ทำให้เซลล์ไขมันฝ่อตัวลงทันที ภายใน 18 นาที!
- ส่งผลดีต่อสุขภาพภายในสามารถปรับสมดุลฮอร์โมนควบคุมความอยากอาหาร
- ไม่เจ็บ -> ไม่ต้องผ่าตัด -> ไม่ต้องหยุดพักงาน
4.Slim Ultra by Accent Ultra
เทคโนโลยีอัจฉริยะหนึ่งเดียวที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้นั่นคือ Slim Ultra by Accent Ultra คือโปรแกรม 360 degree Body Reshaping จุดเด่นคือการ “สลายไขมันในช่องท้อง” ที่ไม่ว่าการผ่าตัดหรือเลเซอร์ตัวไหนสามารถเข้ามาแทนที่ได้ ปรับเปลี่ยนรูปร่างด้วยเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศแถบอเมริกาใต้ โดยเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในวงการศัลยแพทย์ว่าสามารถปรับหุ่นสวยได้ทุกมุมมอง พร้อมช่วยขจัดปัญหาไขมันในช่องท้องที่เกาะอยู่ตามอวัยวะภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยี Slim Ultra by Accent Ultra ใช้คลื่น ULTRASONIC SYSTEM : HOT & COLD MODE & RF SYSTEM ที่ตัวเลเซอร์จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันในร่างกายให้เกิดการสั่นสะเทือน จนไขมันเกิดการแตกตัวออกจากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ ขับไขมันออกมาตามธรรมชาติ เป็นโปรแกรมเลเซอร์สลายไขมันที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่บวม ช้ำ พร้อมความรู้สึกผ่อนคลายขณะการรักษา และสามารถทำได้หลายส่วน เช่นหน้าท้อง สะโพก ต้นขา โดยสามารถลดสัดส่วนได้โดยเฉลี่ย 2 – 5 ซม. ตั้งแต่ครั้งแรกของการรักษา ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันเดิมที่มีอยู่
Slim Ultra by Accent Ultra เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมในช่องท้องที่ไม่สามารถขจัดออกไปได้ด้วยการดูดไขมันหรือการออกกำลังกาย
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมันส่วนเกินแต่ไม่อยากให้บวมช้ำ และผ่าตัด
- ผู้ที่มีปัญหาผิวคลื่น ไม่เรียบที่เกิดจากเซลล์ลูไลท์
- ผู้ที่ต้องการปรับผิวหนังหย่อนคล้อยให้ตึงกระชับ
จุดเด่นของ Slim Ultra by Accent Ultra
- สลายไขมันได้ลึกถึงชั้นไขมันในช่องท้องที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการดูดไขมันรวมถึงช่วยลดปัญหาผิวเปลือกส้มจากเซลล์ลูไลท์
- ไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องพักฟื้น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเจ็บปวด อีกทั้งยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายขณะการรักษา
- ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับมากขึ้น ไม่หย่อนคล้อย
- เห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ( ขึ้นกับความหนาของชั้นไขมัน และสรีระของแต่ละคน )
5. Slim Firm 4D by REACTION
มิติใหม่ในศาสตร์ทางการแพทย์ด้านความงามสลายไขมันและกระชับสัดส่วนได้อย่างทั่วถึงในทั้ง 4 มิติของชั้นผิวกระชับสัดส่วนสูงสุดถึง 8 นิ้ว Slim Firm 4D by REACTION
Slim Firm 4D by REACTION เป็นเทคโนโลยีที่ผนวกพลังงานเลเซอร์ 4 คลื่นความถี่เข้ากับระบบสุญญากาศทำให้การสลายไขมันและกระชับสัดส่วนเป็นไปอย่างทั่วถึงกว่าระบบทั่วไปที่ใช้คลื่นความถี่เดียว จึงสามารถสลายไขมันและกระชับผิวได้ถึง 4 มิติ (4 Dimension) ตามระดับความลึกของชั้นผิว สามารถทำได้ในทุกส่วนของร่างกายที่มีไขมันส่วนเกิน หรือมีเซลลูไลท์ หรือมีผิวหย่อนคล้อย พร้อมเห็นผลทันทีในแง่ของความเรียบเนียนและความตึงกระชับของผิว รูปร่างเพรียวกระชับขึ้น สัดส่วนลดลง นอกจากนี้ยังไม่เจ็บและคนไข้จะรู้สึกผ่อนคลายขณะเข้ารับการรักษา
Slim Firm 4D by REACTION เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับคนที่ต้องการกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยทั้งจากการลดน้ำหนักหรือการคลอดบุตร
- เหมาะกับคนที่ต้องการให้รูปร่างเฟริม เพัรยว กระชับ ไม่หย่อนคล้อย
- เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องการพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน
- เหมาะกับคนที่กลัวเจ็บและกังวลเรื่องแผลเป็น
จุดเด่นของ Slim Firm 4D by REACTION
- สลายไขมันและกระชับผิวได้ถึง 4 มิติ (4 Dimensions) ตามระดับคามลึกของชั้นผิว
- เห็นผลทันทีในแง่ของความเรียบเนียนและความตึงกระชับของผิว รูปร่างเพรียวกระชับขึ้น สัดส่วนลดลง
- ไม่เจ็บและรู้สึกผ่อนคลายขณะรับการรักษา
- ทำได้ในทุกส่วนของร่างกายที่มีไขมันส่วนเกิน หรือมีเซลลูไลท์ หรือมีผิวหย่อนคล้อย
6. Slim Smooth by Smooth Shapes
เทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับผัญหาผิวเปลือกส้ม เซลลูไลท์ นั่นก็คือ Slim Smooth by Smooth Shapes อีกหนึ่งในเทคโนโลยีจากบริษัท Cynosure บริษัทเทคโนโลยีความงามชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรีดผิวขรุขระ เซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้มให้เรียบเนียนและกระชับด้วยพลังงานลำแสงเลเซอร์คลื่นความถี่ 915 mm ควบคู่กับความถี่ระดับ 650 mm เพื่อความเรียบเนียนและเพรียวกระชับของเรียวขาและต้นแขนซึ่งสามารถช่วยให้…
• 80% ผิวเรียบเนียนขึ้น
• 70% ผิวแน่น ตึงกระชับขึ้น
• 81% สัดส่วนลดลง
โดย Slim Smooth by Smooth Shapes เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ชนิดแรกที่เราได้ทดสอบแล้วว่าได้ผลกับการรักษา cellulite จริงๆ หลังจากที่ได้ลองเครื่องอื่นๆ เกือบเป็นโหลในช่วงเวลาหลายปี โดยสามารถลดต้นขาลงเฉลี่ย 3.5 cm เท่ากับ กางเกง 1ไซส์ และ ลดได้สูงสุด 8.7 cm เท่ากับ กางเกง 2 ไซส์
Slim Smooth by Smooth Shapes เหมาะกับใครบ้าง
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์สะสมบริเวณแขนและขา และต้องการกำจัดปัญหาในจุดนี้
- เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการการผ่าตัดและไม่ต้องการการพักฟื้น
- เหมาะกับผู้ที่กังวลเรื่องความเจ็บปวด และไม่ต้องการพักฟื้น
จุดเด่นของ Slim Smooth
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น โดยสามารถกำจัดเซลล์ลูไลท์ได้อย่างเห็นผลและมีประสิทธิภาพ
- ช่วยให้ผิวแน่น ตึงกระชับขึ้นมากขึ้น
- สามารถทำให้สัดส่วนลดลงได้มากสูงสุดถึง 2 ไซส์ (ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่มีอยู่)
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำหัตถการ
7. Ion Magnum
สำหรับเทคโนโลยีสุดท้ายเป็นเทคโนโลยี Ion Magnum ที่ได้รับการคิดค้นจากมหาวิทยาลัยลอนดอน จากทีมนักวิจัยที่ประดิษฐ์เครื่องกระตุ้นหัวใจสำหรับคนไข้ที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะ เครื่องนี้สามารถปลดปล่อย Analogue Wave Form ออกไปได้ 3,000 รูปแบบ ซึ่งเป็น Wave Form ตามธรรมชาติเช่นเดียวกับที่ร่างกายของเราเมื่อออกกำลังกาย จะมีการปลดปล่อยคลื่นสัญญาณจากกล้ามเนื้อสู่สมอง ระหว่างนั้นจะมีการปลดปล่อย โกรทฮอร์โมน ไทรอยด์ฮอร์โมน และ DHEA ที่ช่วยเผาพลาญไขมัน
ดังนั้นเมื่อทำการรักษาด้วยเครื่อง Ion Therapy ก็เหมือนกับการออกกำลังกายโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย คือเมื่อทำการรักษาด้วยเครื่อง Ion Therapy เครื่องนี้จะปล่อย Analogue Wave Form ออกมาสู่ร่างกายเรา คลื่น Wave Form นี้ถูกส่งไปยังสมอง สมองรับรู้และเข้าใจว่ากำลังออกกำลังกายอยู่ สมองหลั่งฮอร์โมนเดียวกับฮอร์โมนที่หลั่งออกมาตอนออกกำลังกาย ซึ่งนั่นก็คือ โกรทฮอร์โมน ไทรอยด์ฮอร์โมน และ DHEA ที่ช่วยเผาพลาญไขมัน
จากผลงานวิจัยได้ระบุไว้ว่า การทำการรักษาด้วยเครื่อง Ion Therapy นี้ 5 ครั้ง เทียบเท่ากับการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องนาน 6 เดือน ส่งผลให้ไขมันหายไป น้ำหนักลดลง ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จุดเด่นของ Ion Magnum
- เผาผลาญไขมันได้สูงสุดถึง 5,000 Calories ภายในการรักษาเพียง 30 นาที พร้อมลดสัดส่วน ได้ถึง 3 – 9 ซม.
- เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ให้กล้ามเนื้อกระชับ และมีความชัดเจนมากขึ้น
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ ไม่ต้องฉีดยาชา สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำเสร็จ
- ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ไร้ผลข้างเคียงหลังทำเสร็จ
3.ปัญหารูปร่างใด เหมาะกับเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยเลอเซอร์ชนิดไหน?
เราสามารถขจัดไขมันด้วยเลเซอร์ได้แทบทุกส่วนของร่างกาย โดยส่วนใหญ่มักใช้เพื่อขจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินออกจากบริเวณช่องท้องส่วนบนและส่วนล่าง เอว สะโพก สีข้าง และบริเวณบั้นท้าย แต่อย่างไรก็ตามการกำจัดไขมันด้วยพลังงานเลเซอร์ ยังสามารถใช้เพื่อรักษาบริเวณที่มีขนาดเล็กได้ เช่น ต้นแขน ต้นขาวงแขน บริเวณน่อง และเหนียงใต้คาง ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า สามารถกำจัดไขมันได้ทุกส่วนของร่างกายเลยก็ว่าได้
เทคโนโลยีสลายไขมันด้วย พลังงานเลเซอร์ |
||||||
---|---|---|---|---|---|---|
3D Body Design by Triple T |
||||||
Robotic Fat Killer By SculpSure |
||||||
Slim Laser Diet by Zerona |
||||||
Slim Ultra by Accent Ultra |
||||||
Slim Firm 4D by Reaction |
| |||||
Slim Smooth by Smooth Shape |
||||||
Ion Magnum |
4.ขั้นตอนการรักษาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์สลายไขมัน
สำหรับขั้นตอนการสลายไขมันด้วยพลังเลเซอร์นั้น เริ่มจากขั้นตอนแรกที่สำคัญคือ Body Simulation Design by Vectra 3D ดีไซน์มิติของเรือนร่าง เพื่อจำลองภาพเสมือนจริงแบบ 3 มิติทั้งก่อนการสลายไขมันด้วยพลังงานเลเซอร์ เพื่อให้คุณได้ร่วมออกแบบเรือนร่างในอนาคตร่วมกันกับแพทย์ นอกจากนี้ Vectra 3D ยังเป็นเทคโนโลยีหนึ่งเดียวใน South East Asia และด้วยความ Exclusive นี้ทำให้คนไข้เสมือนข้ามมิติแห่งกาลเวลา เห็นรูปร่างล่วงหน้าก่อนตัดสินใจ โดย Body Simulation Design by Vectra 3D สามารถ
- ประเมินปัญหาและสภาพร่างกาย
- วิเคราะหฺร่างกายภายนอก
- จำลองภาพสำหรับแผนการดำเนินงานแผนการรักษา
- การวัดสัดส่วนและเลือกวิธีที่เหมาะสมในการรักษา
- ระบุปริมาณไขมันที่จะกำจัดออก
- เปรียบเทียบภาพถ่ายก่อนและหลังภาพจำลองก่อนการรักษาเพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจ
นอกจากนี้เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ เรายังเพิ่มขั้นตอนการรักษาควบคู่กับเทคโนโลยี Robo-Body Scanning Asalysis เทคโนโลยีที่ช่วยวัดวิเคราะห์ร่างกายภายในพร้อมคำนวณองค์ประกอบโดยรวมของร่างกาย รวมทั้ง
- เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย
- ดัชนีมวลกาย (BMI)
- สภาพน้ำหนักตัว
- สภาพกล้ามเนื้อ
- การวัดน้ำหนักมาตรฐาน
- อัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐาน (BMR)
- การใช้จ่ายพลังงานรายวันโดยรวม (TDE)
การกำจัดไขมันด้วยพลังงานเลเซอร์ส่วนมากจะทำงานโดยใช้ความร้อนจากพลังงานแสงเลเซอร์ชนิดต่าง ๆ เพื่อส่งความร้อนไปยังเซลล์ไขมันและทำให้เซลล์ไขมันละลายกลายเป็นของเหลว เมื่อเซลล์ไขมันในบริเวณที่ทำการรักษาได้รับความร้อนที่เพียงพอ เซลล์ไขมันเหล่านั้นก็จะตายลง หลังจากที่พวกมันตายไปแล้ว เซลล์ไขมันเหล่านี้จะถูกทำให้ร้อนจนเซลล์ไขมันจะแตกตัวและกลายเป็นของเหลว และเมื่อเซลล์ไขมันถูกหลอมละลายแล้ว เซลล์ไขมันเหล่านี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองของเรา หลังจากนั้น เซลล์ไขมันจะถูกประมวลผลภายในในลำไส้และในที่สุดพวกก็จะถูกลำเลียงออกจากร่างกายของเราระบบทางปัสสาวะ
ระยะเวลาในการรักษาเพื่อกำจัดไขมันส่วนเกินด้วยเลเซอร์นั้นส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ 4 ปัจจัยหลัก ๆ ด้วยกันคือ
- ขนาดของพื้นที่ที่จะทำการรักษา
- บริเวณพื้นที่ที่ทำการรักษา
- ปริมาณไขมันในบริเวณที่ทำการรักษา
- ปริมาณไขมันที่คุณต้องการกำจัดออกไป
อย่างไรก็ตามโดยเฉลี่ยแล้ว ในแต่ละพื้นที่การรักษา จะใช้เวลาประมาณ 25 นาที ถึง หนึ่งชั่วโมง ดังนั้นหากเราต้องการกำหนดเป้าหมายไว้ที่ 3 จุดต่อการรักษา เราอาจต้องเผื่อเวลาไว้สักประมาณ 1 – 3 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนดั่งใจปรารถนา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการรักษาของแต่ละเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยเช่นกัน
5.การเตรียมตัวก่อนการเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์สลายไขมัน
ก่อนทำเลเซอร์สลายไขมัน ควรดื่มน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องในปริมาณที่พอเหมาะ และนอกจากนี้หากทำเลเซอร์สลายไขมันบริเวณช่วงท้องควรทำหลังทานอาหารแล้วไม่น้อยกว่า 1 ชม. และควรงดทำเลเซอร์สลายไขมันบริเวณหน้าท้องช่วงที่มีประจำเดือน แต่เนื่องจากไม่ใช่การทำศัลยกรรม จึงไม่มีความจำเป็นต้องงดทานวิตามิน-อาหารเสริมต่าง ๆ
6.การดูแลตนเองหลังการเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยพลังงานเลเซอร์
หลังการเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์สลายไขมัน ควรทานน้ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายได้ใช้กลไกระบบขับถ่ายในการขับของเสีย เนื่องจากเซลล์ไขมันที่ถูกสลายแล้วจะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ อีกทั้งการดื่มน้ำในปริมาณมากๆ จะทำให้ร่างกายไม่อ่อนเพลีย นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องพักฟื้น โดยผู้ทำการรักษาสามารถ กลับไปทำกิจกรรมต่างๆและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่มีความเจ็บปวดแต่อย่างใด
7.ความแตกต่างระหว่างการดูดไขมันแบบทั่วไป VS เลเซอร์สลายไขมัน?
หลังจากได้ทำความรู้จักกับเลเซอร์สลายไขมันไปแล้ว เราลองมาดูกันดีกว่าว่าการดูดไขมันแบบทั่วไปแตกต่างจากเลเซอร์สลายไขมันอย่างไร
เลเซอร์สลายไขมัน | การดูดไขมันแบบทั่วไป |
---|---|
สามารถกลับบ้านได้เลยหลังเสร็จการรักษา | ต้องเข้านอนแอดมิดที่โรงพยาบาล |
ไม่เจ็บ ไม่ต้องฉีดยาชา หรือยาสลบ | ต้องอยู่ภายใต้การดมยาสลบหรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ |
สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็ว โดยใช้เวลาเพียง 4-6 สัปดาห์เท่านั้นเพื่อเผยผลลัพธ์ที่ชัดเจน | เห็นผลลัพธ์ทันที แต่มีระยะพักฟื้น จึงยังยงมีอาการบวมช้ำ หลังทำการดูดไขมัน |
ร่างกายของเราต้องใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ในการกำจัดเซลล์ไขมันทั้งหมดออกไปตามกระบวนการทางธรรมชาติ | สามารถกำจัดไขมันออกไปได้รวดเร็วทันที |
สามารถสังเกตถึงผิวที่ดูกระชับขึ้นทันทีและเส้นรอบวงของบริเวณที่ทำการรักษา | ต้องใช้เทคโนโลยียกกระชับเข้าช่วยเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดผิวเหี่ยวย่น |
ไม่บวม ช้ำ หลังทำการรักษา | ก่อให้เกิดอาการบวม ฟกช้ำ หลังการรักษา ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล |
รู้สึกผ่อนคลาย สบาย ขณะทำการรักษา | เจ็บกว่า แต่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้โดยการใช้ยาชาเฉพาะจุดหรือยาสลบ |
ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั่งระหว่างและหลังการทำหัตถการ | มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากดูแลรักษาแผลไม่ดี |
ผลลััพธ์แบบทั่วร่างกาย (Total Body Effects) | ผลลัพธ์เฉพาะจุดที่ดูดไขมันเท่านั้น |
8.เลเซอร์สลายไขมัน ให้ผลลัพธ์ถาวรหรือไม่?
ผลการรักษาของการกำจัดไขมันด้วยเลเซอร์นั้นสามารถคงอยู่ตลอดชีวิต เพราะเมื่อกำจัดไขมันออกไปแล้ว ร่างกายจะไม่สามารถสร้างเซลล์ไขมันกลับคืนมาได้ ดังนั้นบริเวณที่ทำการรักษาจะมีเซลล์ไขมันน้อยลงอย่างถาวร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เซลล์ไขมันอาจจะมีการขยายจากเล็กไปเป็นเซลล์ไขมันที่ใหญ่ได้ ดังนั้น หลังทำการรักษาด้วยเลเซอร์สลายไขมัน คนไข้ยังคงต้องควบคุมการรับประมานอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อักทั้ง ความพึงพอใจในผลการรักษานั้นเป็นเรื่องที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล บางครั้งคนเราลดน้ำหนักและได้รับการดูดไขมัน แต่ก็ยังไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ เพราะไม่ได้รับการแก้ไขที่ต้นเหตุของการมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
9.ตรวจสอบมาตรการด้านความปลอดภัยของศูนย์ดูแลรูปร่าง กระชับสัดส่วน
ปัจจุบันมีสถานพยาบาลหลากหลายแห่งที่ให้บริการด้านความงามและรูปร่าง การเลือกสถานพยาบาลจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามโดยต้องคำนึงถึงถึงสิ่งต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- Safety Policy มาตรการด้านความปลอดภัยต่าง ๆ รวมถึงการป้องกันโควิด-19 และความสะอาดภายในศูนย์ดูแลรูปร่าง
- มีเทคโนโลยีเลเซอร์ด้านรูปร่างที่ได้มาตรฐานระดับโลก เช่น US FDA
- มีแพทย์วุฒิบัตรเฉพาะทาง ผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์และเทคโนโลยีการสลายไขมัน กระชับสัดส่วน ในการให้คำปรึกษาอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาหรือไม่
- มี AI Plan แจ้งรายละเอียดโปรแกรมการรักษาที่ชัดเจนตั้งแต่วิธีการทำไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่แน่นอน
- มีการดูแลอย่างใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังการรักษาโดยพยาบาลผู้ชำนาญการ
- ทำหัตถการในสถานที่ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และได้รับการรับรองจากสถาบันระดับนานาชาติ
- มีการประเมินผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก่อน-หลัง ถึงความเปลี่ยนแปลง
- มีการให้บริการที่ดี พร้อมทีมงาน Customer Service ที่คอยดูแล ตอบคำถามตลอด 24 ชั่วโมง
10. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพทย์ผู้ให้คำปรึกษา
หลังจากที่เรารู้แล้วว่า เราสนใจจะดูดไขมันที่ไหนดี อย่างแรกที่ต้องเช็คเลย คือแพทย์ที่ทำการดูดไขมันให้เรา ไม่ว่าจะเป็น ผลงานของแพทย์ (รีวิวดูดไขมัน), ใบประกอบวิชาชีพ, ประสบการณ์การดูดไขมันของแพทย์, ความน่าเชื่อถือ และการให้คำปรึกษาของแพทย์
หลังจากที่เลือกคลินิกแล้ว เราก็ต้องมาศึกษาข้อมูลของแพทย์ที่ให้คำปรึกษาและเป็นผู้ดูแลตลอดการรักษาของเราด้วยว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือไม่ โดยจะต้อง
- มีวุฒิบัตรและใบประกอบวิชาชีพชัดเจน โดยเราสามารถตรวจสอบรายชื่อศัลยแพทย์ได้ที่ https://www.thprs.org/find-doctor
- มีผลงานการรักษาจำนวนมาก เพื่อเป็นเครื่องการันตีประสบการณ์ในการรักษา
- มีเทคโนโลยีที่ช่วยวัดผลลัพธ์ก่อน-หลังการรักษาออกมาเป็นรูปธรรมและนามธรรมอย่างชัดเจน
- มีการวางแผนการรักษาอย่างเป็นระบบ พร้อมคอบโจทย์ปัญหาของคนไข้ในแต่ละราย
ซึ่งการเข้าไปปรึกษาแพทย์โดยตรง จะทำให้เรารู้วิธีการประเมินการรักษา ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความน่าเชื่อถือของแพทย์ได้ โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจริง จะอธิบายให้เราเข้าใจ ให้คำแนะนำเราได้อย่างถูกต้อง เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมและจะมีการซักประวัติ รวมไปถึงการสอบถามพฤติกรรมของคนไข้ เพื่อประเมินการรักษาอย่างละเอียดด้วย
จากข้อมูลข้างต้นเกี่ยวกับ 10 เรื่องต้องรู้ก่อนการตัดสินใจสลายไขมัน กระชับสัดส่วนด้วยเทคโนโลยีพลังงานเลเซอร์ทาง Nida Esth’ Medical Centre ได้รวบรวมมานั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังสนใจจะเข้ารับการรักษาเพื่อปรับหุ่นสวย โดยไม่ต้องการผ่าตัดและสามารถช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก่อนการเข้ารับการรักษา นอกจากนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ แพทย์หญิง สุนิดา ยุทธโยธิน แพทย์ผิวหนัง No.1 ที่มีประสบการณ์กว่า 22 ปีด้านความงามและการรักษาด้วยเลเซอร์เทคโนโลยีที่ Nida Esth’ Medical Center ศูนย์การแพทย์ความงามชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมสรรพด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำสมัยผนวกกับความชำนาญของทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรในด้านต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหารูปร่างที่คุณกังวล จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ระดับ Premium หลังการรักษาได้อย่างแน่นอน
ท่านสามารถรับคำปรึกษาจากทีมพยาบาลผู้ชำนาญการของ Nida Esth’ Medical Centre ได้ที่ โทร 02-252-2121 หรือ Line Official Account @nida_esth