วิธีการดูแลที่ถูกต้องหลังการศัลยกรรมเสริมหน้าอก by Dr.Piya

Nida Esthetic Cosmetic Surgery Bangkok

 

การเพิ่มคัพอัพไซส์ ศัลยกรรมเสริมหน้าอกถือเป็นการศัลยกรรมอันดับต้นๆ ที่สาวๆต้องการที่จะ Makeover หรือเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีบุคลภาพที่ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจอีกด้วย แต่หลายท่านก็ยังกังวลอยู่ว่า เสริมหน้าอกจริงๆแล้วอันตรายไหม? ซิลิโคนที่เสริมเข้าไปจะเกิดอันตรายต่อร่างกายในอนาคตหรือเปล่า? มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไรหลังการศัลยกรรมเสริมหน้าอก วันนี้จะมาไขข้อข้องใจให้สาวๆ กันค่ะ

  1. ระวังอย่าให้แผลผ่าตัดเกิดความชื้นหรือโดนน้ำจนกว่าแพทย์จะทำการนัดตัดไหม เพราะมีโอกาสที่เกิดเกิดการอักเสบของแผลได้ และไม่ควรทำการอาบน้ำแบบลงแช่ตัวในอ่าง เพราะมีโอกาสที่น้ำจะซึมเข้าสู่แผลผ่าตัดได้ 
  2. ในช่วงเดือนแรกหลังการเสริมหน้าอก ควรนอนในท่าการนอนหงาย ไม่ควรตะแคงข้าง เพราะจะทำให้ซิลิโคนที่ถูกเสริมไปนั้นเกิดการไหล และไม่ฝังตัวอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยลักษณะการนอนที่ถูกต้องคือ นอนให้ลำตัวส่วนบนสูงประมาณ 30-45 องศา จะช่วยลดอาการบวมลงได้ แนะนำให้นอนหนุนหมอนสูง ดันหลังสัก 2-3 ใบ และควรนอนพักผ่อนให้มาก ๆ หลังผ่าตัด  
  3. เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 หลังการผ่าตัด จนถึง 6 เดือนหรือ 1 ปี จำเป็นต้องนวดหน้าอกเพื่อป้องกันและลดการเกิดพังผืดรัดตัว และจะทำให้หน้าอกที่เสริมไปแล้วนั้นนิ่มและให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยมีหลักการนวดหน้าอก ดังนี้
    • Step 1 : ใช้มือทั้งสองข้างดันซิลิโคนเข้ามาตรงกลางหน้าอกให้ชิดกัน ค้างไว้ประมาณ 10 วินาทีแล้วคลายออก
    • Step 2 : ใช้มือดันหน้าอกจากตรงกลางไปด้านข้าง เพื่อดันให้ซิลิโคนออกข้างลำตัว ทำค้างไว้อีกประมาณ 10 วินาทีแล้วคลายออก
    • Step 3 : ใช้ฝ่ามือดันซิลิโคนขึ้นข้างบนให้ได้มากที่สุด โดยให้ดันค้างไว้ประมาณ 10 วินาที
    • Step 4 : สุดท้ายใช้ฝ่ามือประสานกันแล้วดันซิลิโคนลงด้านล่าง ค้างไว้ 10 วินาที แล้วคลายออก จากนั้นให้วนกลับไปนวดท่าแรกใหม่อีกครั้ง ทำซ้ำแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ โดยให้นวดวันละประมาณ 5-10 นาที
  4. ควรสวมสปอร์ตบราตลอด 6 อาทิตย์ หลังจากนั้นสามารถใส่บราชนิดเสริมโครงได้ตามความต้องการ (ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์)
  5. ไม่ควรออกกำลังกายหรือยกของหนัก ในช่วงระยะเวลา 2-4 อาทิตย์หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
  6. สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ใน 2 อาทิตย์หลังการผ่าตัด แต่ควรระมัดระวังในการสัมผัสหน้าอก 
  7. รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และควรไปตรวจตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง ทั้งนี้ให้งดยาประเภทแอสไพริน บรูเฟน วิตามินอี น้ำมันตับปลา หรือสมุนไพรต่าง ๆ ประมาณ 2 สัปดาห์หลังผ่าตัดเพราะยาเหล่านี้ทำให้เลือดออกได้ง่าย หรือทางที่ดีหากจะรับประทานยาอะไรเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
  8. สำหรับอาการเสียวแปล๊บที่ด้านข้างของเต้านมหรือหัวนมอาจเกิดขึ้นได้ในบางครั้ง และถือเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ในชั่วคราว ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วอาการนี้จะหายไปเองภายใน 3 เดือน
  9. แผลเป็นในระยะแรกจะเห็นชัดในช่วง 2-3 เดือนแรก โดยแผลเป็นจะมีสีเข้มขึ้นและหนา แต่จะค่อย ๆ จางลงและนิ่มลงจนเป็นปกติในเวลา 1 ปี ดังนั้นระยะแรกหลังผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการอาบแดด และควรทาครีมกันแดดบริเวณแผลเป็นด้วย
  10. หลังการทำศัลยกรรมผ่าตัดไปแล้วในระยะยาว ควรหมั่นตรวจดูเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ เพื่อดูลักษณะของเต้านมว่ามีอะไรผิดปกติ หรือเปลี่ยนไปหรือไม่

อ่านเทคนิค ศัลยกรรมหน้าอกแบบ Ultimate Breast 360 °
อ่านเทคนิค ศัลยกรรมหน้าอกแบบ Hybrid