ปัญหาคางสองชั้น หรือที่เรียกทั่วไปว่าเหนียง เป็นปัญหาทั่วไปที่สามารถพบเห็นได้ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ซึ่งโดยปกติแล้ว “เหนียง” ไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด เพียงแต่บริเวณใต้คางของเรานั้นมีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก และเมื่อไขมันมากระจุกตัวกันเป็นมากจนถึงระดับหนึ่ง ร่างกายก็จะสร้างชั้นไขมันออกมาให้เห็นเป็นเหนียงนี่เอง
ในทางการแพทย์แล้ว เหนียงไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพแต่อย่างไร แต่คนส่วนมากมองว่าปัญหาคางสองชั้นนี้เป็นความบกพร่องด้านความงามมากว่า เพราะการที่รามีเหนียงนั้นหมายถึงน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นและทำให้มองเห็นกรอบหน้าไม่ชัดเจน ซึ่งทำให้ดูมีใบหนาที่ใหญ่กว่าปกติ
ซึ่งปัญหาคางสองชั้นเกิดได้จากหลายปัจจัยเช่นกัน ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีสาเหตุใดบ้างที่ส่งผลต่อการเกิดคางสองชั้นที่หลาย ๆ คนกังวลใจกันอยู่
สาเหตุโดยทั่วไปของการเกิดเหนียง
ไขมันส่วนเกิน
ปัญหาหลักของคางสองชั้นเกิดจากไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บริเวณใต้คาง เมื่อร่างกายเรามีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เราก็มีแนวโน้มที่จะมีไขมันเพิ่มมากขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งนั้นหมายรวมถึงบริเวณใบหน้าและลำคอของเราด้วย
สรีระร่างกายของคนเราก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญต่อการเกิดไขมันสะสมต่างจุดต่าง ๆ ในบางคนอาจมีปัญหาไขมันสะสมบริเวณใบหน้า เช่น บริเวณแก้ม มากกว่าคนอื่น ๆ ที่อาจจะมีปัญหาไขมันสะสมบริเวณต้นแขน-ต้นขา ดังนั้นสรีระร่างกายของเราก็เป็นสาเหตุหลักได้เช่นกัน หลาย ๆ คนที่พยายามลดน้ำหนัก แต่เจ้าคางสองชั้นนี้ก็ไม่หายไปเสียที จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจ เพราะต่อให้เรามีพุงหรือแขน-ขาใหญ่แค่ไหน ก็ยังสามารถปกปิดด้วยเสื้อผ้าได้ แต่สำหรับคางสองชั้นแล้วละก็ อาจจะยากเสียหน่อยละ
ผิวที่แก่ลงตามวัย
สาเหตุอีกข้อหนึ่งของปัญหาคางสองชั้น คือ อายุที่มากขึ้นของเรา ในช่วงอายุประมาณ 20 กลาง ๆ ร่างกายเราจะเริ่มผลิตคอลลาเจนน้อยลง จึงทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลงตามไปด้วย และยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ปัญหาความหย่อนคล้อยก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และไม่ใช่เพียงอายุที่เพิ่มขึ้นเท่านั้นที่เป็นปัจจัยต่อผิวที่หย่อนคล้อย แต่การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม และการเผชิญหน้ากับแสงแดดอยู่เป็นประจำ เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยทั้งสิ้น
โครงสร้างใบหน้า
ปัญหาโครงสร้างใบหน้าเป็นปัญหาที่อาจจะแก้ไขยากในระดับหนึ่ง เพราะว่าในกลุ่มคนที่มีรูปหน้ากลม คางสั้น หรือขากรรไกรเล็กกว่าปกติ มักจะประสบปัญหาการมีคางสองชั้นได้ง่ายมากกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้เพราะว่าผิวหนังในบริเวณใต้คางยืดขยายออกไปน้อย เวลามีไขมันมาสะสมบริเวณดังกล่าว ถึงแม้จะในปริมาณไม่มาก แต่ก็เกิดเหนียงได้ง่ายกว่าคนที่มีใบหน้ารูปไข่ มีคาง และมีรูปกรามที่คมชัด นี้จึงเป็นเหตุผลที่คนผอมหลาย ๆ คนมีปัญหาคางสองชั้น
แล้วเราจะกำจัดไขมันใต้คางได้อย่างไร
การทานอาการที่มีประโยชน์และการออกกำลังกาย
การเลือกทานผัก ผลไม้และลดของทอดของมัน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดไขมันสะสมต่างส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ และนอกจากนี้ในปัจจุบันมีวิธีการสอนออกกำลังกายมากมายตามอินเตอร์เน็ตหรือ YouTube ที่ช่วยสอนวิธีลดออกกำลังกายเพื่อลดไขมันใต้คางได้ โดยสามารถรับชมลิ้งค์วิดิโอออกกำลังกายลดปัญหาคางสองชั้นได้ที่นี่ -> https://www.youtube.com/watch?v=wg-uslIi1J4
แต่สำหรับหลาย ๆ คนอาจจะไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย หรือไลฟ์สไตล์ไม่มีเวลาที่จะเลือกทานอาหารที่ดีอยู่ตลอดเวลา หรือลองทำแล้วแต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นอาจเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสู่การกำจัดไขมันใต้คางได้
การลดปัญหาเหนียงแบบไม่ผ่าตัดและแบบกึ่งผ่าตัด
1. Botox® เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการกำจัดปัญหาคางสองชั้น ซึ่งหลาย ๆ คนคงทราบดีว่า Botox® เข้ามามีบทบาทในวงการแพทย์ความงามเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดย Botox® สามารถช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ บริเวณใบหน้า แต่ในส่วนของปัญหาคางสองชั้นนี้ Botox® จะเข้าไปยกกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใต้ลำคอ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีขนาดเล็กลงและดูกระชับขึ้น
2. อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือเลเซอร์ยกกระชับ เพราะนอกจากจะช่วยยกกระชับบริเวณผิวหน้าที่หย่อนคล้อยแล้ว เลเซอร์ยกกระชับยังสามารถช่วยยกกระชับผิวหนังบริเวณลำคอได้อีกด้วย โดยการทำงานของเทคโนโลยีเลเซอร์กระชับผิวคือการใช้ความพลังงานร้อนเข้าช่วยเพื่อไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งจะทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและความกระชับมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยสลายไขมันจำนวนหนึ่ง ทำให้ไขมันสะสมบริเวณดังกล่าวมีปริมาณน้องลง
3. อีกหนึ่งวิธีในการกำจัดไขมันบริเวณเหนียงได้คือ การดูดไขมันด้วยเลเซอร์หัวเข็ม Slim Melt by Slim Lipo ซึ่งเป็น Semi-surgical หรือที่เรียกว่าเป็นการดูดไขมันแบบกึ่งผ่าตัด เพราะศัลยแพทย์ใช้ Fiber Optic ที่มีขนาดเล็กจิ๋วเพียง 0.3 มิลลิเมตรเพื่อใช้ในการดูดไขมัน ดังนั้นแผลที่เจาะเข้าไปจะมีขนาดเล็ก แทบจะมองไม่เห็น นอกจากนี้ผู้เข้ารับการรักษายังไม่ต้องกังวลเรื่องการพักฟื้นหรือปัญหาบวมช้ำ เนื่องจากเป็น Semi-surgical จึงไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้านได้ทันที และอีกหนึ่งความพิเศษของเทคโนโลยี Slim Melt คือ สามารถเปลี่ยนโหมดกระชับผิวได้ในขณะที่ทำการดูดไขมันอีกด้วย ดังนั้นจึงหมดกังวลปัญหาผิวหย่อนคล้อยหลังการดูดไขมันแบบทั่วไปได้
การรักษาโดยการผ่าตัด
แต่สำหรับใครที่ต้องการผลลัพธ์แบบทันทีและชัดเจนที่สุด คงจะหนีไม่พ้นทางออกด้วยวิธีศัลยกรรม เพราะไม่ว่าจะเป็นปัญหาไขมันสะสมใต้คางหรือปัญหาผิวหนังหย่อน ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำศัลยกรรมทั้งสิ้น และด้วยความล้ำสมัยในปัจจุบัน จึงมีกรรมวิธีต่าง ๆ มากมายเพื่อตอบสนองความต้องการและปัญหาที่แตกต่างขิงแต่ละบุคคล และศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมเพื่อกำจัดปัญหาคางสองชั้นคือ การศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (Full Face Lift) โดยเป็นการกำจัดผิวหนังที่หย่อนคล้อยออกหรือไขมันบางส่วนเพื่อให้ใบหน้าและลำคอที่หย่อนคล้อย กลับมาเต่งตึงเหมือนสมัยสาว ๆ
และหากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กังวลใจเกี่ยวกับปัญหาไขมันสะสมบริเวณใต้คางและยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกวิธีไหนที่เหมาะสมในการกำจัดไขมันส่วนเกิดเหล่านี้ออกไป สามารถเข้ามาปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ พ.ต.ท.นพ.ปิยะ รังรักษ์ศิริ ศัลยแพทย์มือหนึ่งประสบการณ์กว่า 21 ปีด้านความงามที่ Nida Esth’ Medical Center ศูนย์การแพทย์ความงามชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำสมัยผนวกกับความชำนาญของทีมแพทย์และบุคลากรเพื่อดูแลปัญหาที่กังวลใจ จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยหลังการรักษาแน่นอน
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่พยาบาลเฉพาะทางได้ที่ เบอร์ 02-252-2121 หรือ ไลน์ @nida_esth
Ref: https://www.medicalnewstoday.com/articles/318131#causes